จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวนายุคปัจจุบันยังประสบปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าชาวนาในต่างประเทศ ที่ใช้วิถีชีวิตชาวบ้าน ขณะที่คุณภาพข้าวยังไม่สามารถสู้ข้าวต่างประเทศได้

เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ กล่าวว่า เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 ชาวนาไทยจะสูญพันธุ์เหมือนหอมกระเทียมที่สู้ต่างประเทศไม่ได้ก็ต้องค่อยๆ สูญพันธุ์ วิธีเดียวที่จะทำให้ชาวนาอยู่ได้คือพัฒนาเรื่องคุณภาพข้าวและลดต้นทุนการผลิต และใช้วิถีชีวิตด้วยความเป็นจริง ชาวนาก็จะไม่สูญพันธุ์จากประเทศไทย ถ้าชาวนายังปรับตัวไม่ได้ พัฒนาไม่ได้ ชาวนาไทยก็จะเหลือแต่อดีต เพราะชาวนาในปัจจุบันรอเพียงขายข้าวให้รัฐบาลแพงๆ ซึ่งไม่ใช่ตลาดจริงๆ ที่ต้องมีการแข่งขันคุณภาพและต้นทุนที่แท้จริง

ทองเหมาะ แจ่มแจ้ง เกษตรกรดีเด่นสาขาทำนา กล่าวว่า ชาวนาทุกวันนี้รอขายข้าวรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ไม่เคยคำนึงถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวแก้ปัญหาไม่เป็น ทำนาไม่เป็น ใช้วิธีการทำนาแบบไม่เข้าใจต้นข้าว คุณภาพข้าวไม่ได้ตามมาตรฐาน สมัยก่อนทำนาครั้งเดียวข้าวไม่พอเพียงต่อผู้บริโภค พอทำนาสองครั้งก็พอดี แต่ชาวนาทำนากันสามสี่ครั้งมีเยอะเกินไปและคุณภาพข้าวไม่มี

“ถ้าของเราดี ขายหมด ไม่ต้องรอจำนำ เราสู้เขาได้ อย่าใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ ผ่อนรถผ่อนบ้าน ใช้เงินล่วงหน้าไม่ประมาณตนเอง ทำตามกัน ลอกเลียนแบบกัน ซึ่งมีแต่ตายกับตาย ควรหันมาดูชีวิตจริง ต้นทุนจริง และปรับตัวเสียตั้งแต่วันนี้ ทำนาเอง กินเอง เหลือขาย ผมทำนาขายเกวียนละ 4.2 หมื่นบาท ผมทำนาได้ข้าวเปลือก 1 เกวียน เท่ากับ 1,000 กิโลกรัม สามารถสีเป็นข้าวสารได้ 600 กิโลกรัม ผมกินเองด้วย ขายด้วย เพราะผมทำนาไร้สารพิษ ต้นทุนถูกกว่า”ทองเหมาะ กล่าว

พรม บุญมาช่วย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สำหรับชาวนาขณะนี้มีปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องต้นทุนการผลิต คุณภาพข้าว ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ใช้เงินล่วงหน้า เพราะคิดว่าตนเองต้องได้เงินจากการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่เมื่อมาสะดุดหยุดชะงักอย่างนี้ ชาวนาก็ต้องเอาตัวรอดเพื่อรักษาชีวิตของตนไว้ให้รอดด้วยสัญชาตญาณของความเป็นมนุษย์เพื่อไม่ให้ตัวเองตาย โดยการขายข้าวเงินสดในราคาที่รับสภาพ กู้หนี้ยืมสินทั้งในระบบ นอกระบบ ตามกำลังศรัทธา ตามแนวคิดวิถีชีวิตของแต่ละคน

เสมียน หงส์โต ประธานเครือข่ายชาวนาภาคกลาง กล่าวว่า ชาวนาทุกวันนี้ไม่เคยรู้ว่าต้นทุนการผลิตของตนเองสูงเท่าไร ไม่รู้วิธีการทำนาต้นทุนต่ำ ไม่ยอมเรียนรู้เพราะทำนาแบบสั่งการ เป็นผู้จัดการนามากกว่าชาวนา และในอนาคตชาวนาที่ไม่รู้จักวิธีการทำนาก็ต้องหมดไป เพราะเมื่อใดที่เปิดเออีซีแล้ว ชาวนายังไม่ปรับตัวก็มีแต่ตายกับตาย ดังนั้น ต้องพึ่งตนเองให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ยอมเฉือนเนื้อทำน้อยได้มาก ทำมากได้น้อย

ด้าน สมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมจะเสนอผลสรุปการอนุมัติขายข้าวสต๊อกรัฐบาลจำนวน 1.1 แสนตัน มูลค่า 1,300-1,400 ล้านบาท หรือ 50% จากที่เปิดประมูลทั้งหมด 2.3 แสนตัน ผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ อนุมัติขายภายในสัปดาห์นี้

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต