จาก โพสต์ทูเดย์

โดย....ทีมข่าวภูมิภาค

ทันทีที่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผอ.องค์การคลังสินค้า (อคส.) มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปิยวิชญ์ วงศ์สวัสดิ์ รอง ผอ.องค์การคลังสินค้า (อคส.) มาแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีกับคนร้ายขโมย "ข้าวสารเหนียว กข.6" 3.5 ล้านตัน ที่หายไประหว่างขนจากโกดังกลาง จ.อุดรธานี ไปยังโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรือนกิจ จ.ลพบุรี โดยใช้หลักฐาน "ใบโอนย้ายข้าว" 105 ใบ ที่ไม่มีการลงลายมือชื่อของ อคส.ลพบุรี รับข้าวจำนวนดังกล่าวเป็นหลักฐาน โดยยังไม่มีกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และกรรมการสอบสวนหาผู้กระทำผิดวินัย อาญา แพ่ง

เวลาผ่านไปราว 1 สัปดาห์ อคส.ก็มีคำสั่งย้าย นายยุทธศาสตร์ แสนสวนจิต ผู้ประสานงาน อคส.อุดรธานี และ น.ส.โสภิณ จิรายุทธพงษ์ ผู้ประสานงาน อคส.จ.ลพบุรี เข้าไปเก็บไว้ในกรุที่ กทม. แม้ว่า นายเอนก ฉัตรชัยศิริ เจ้าของ และ ผจก. หจก.โรงสีโชควรลักษณ์ จ.ลพบุรี จะมายืนยันว่าข้าวไม่ได้หายไปไหน แต่ได้ส่งมอบให้ อคส.ไปแล้ว โดยนำหลักฐานเอกสารของ อคส.มาแสดง

เอกสารฉบับนั้น กำลังจะเป็นหอกแหลมกลับมาทิ่มแทง อคส.เอง

อุดรธานีได้ส่งเสริมให้เกษตรกร ปลูกข้าวเหนียว กข.6 หรือ "ข้าวเหนียวหอม" เพื่อเก็บเอาไว้บริโภค หรือเหลือบริโภคเอาไปขาย รัฐบาลก็รับจำนำสูงถึงตันละ 16,000 บาท เมื่อแปรรูปหรือสี  ก็จะเป็นข้าวเหนียวดีที่สุดในประเทศ ราคาขายปลีกอยู่ที่ กก.ละ 28-32 บาท เป็นข้าวสารระดับตลาดบนในประเทศไทย ส่งออกไปต่างประเทศไม่มากนัก

"ข้าวสารเหนียว กข.6" ที่ อคส.แจ้งความว่าหายไป 3.5 ล้าน กก.ปีการผลิต 55/56 เป็นข้าวจากแหล่งผลิตอุดรธานี เก็บเกี่ยวปลายปี 55 ได้รับการแปรรูปหรือสีต้นปี 56 เอาเข้าเก็บในโกดังกลาง อคส.อุดรธานี เพียง 1 เดือน ถือเป็นข้าวชั้นดีเลิศ ยังไม่เคยผ่านการรมสารเคมี ก็มีคำสั่งให้ขนไป "ปรับปรุงและบรรจุถุง เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน" โดยจ้างให้โรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ ปรับปรุงและบรรจุถุงละ 5 กก. ราคาถุงละ 22.575 บาท    

ข้าวทั้งหมด 3.5 ล้าน กก. ขนด้วยรถบรรทุก 10 ล้อ และรถบรรทุกพ่วง ออกจากโกดังกลาง อคส.อุดรธานี 105 เที่ยว ต้นทางยืนยันข้าวออกจากต้นทางครบ แต่ก็มีจุดโหว่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ตามระเบียบการโอนย้ายข้าว เมื่อรถจะออกจากต้นทาง ผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว คลังโกดังกลาง และ อคส.อุดรธานี จะต้องลงนามในใบโอนย้ายข้าว 4 ฉบับ คือ ต้นฉบับ-คู่ฉบับ-สำเนา 1-สำเนา 2 แนบกับเอกสารการชั่งน้ำหนัก ซึ่งจะต้องเดินทางไปกับรถที่บรรทุก

เมื่อข้าวไปถึงปลายทางหรือที่หมายตามคำสั่งของ อคส. จะต้องมีการลงนามของผู้รับมอบอำนาจจากโรงสีฯ และ อคส.ลพบุรี ในใบโอนย้ายทั้ง 4 ฉบับ จากนั้น อคส.ลพบุรี จะต้องส่งใบโอนย้าย ชุดแรกต้นฉบับและสำเนา2 กลับมาที่ อคส.อุดรธานี ชุดที่สองคู่ฉบับและสำเนา 1 ไปให้ อคส.ส่วนกลาง เมื่อ อคส.อุดรธานี ได้รับต้องส่งต่อไปให้ อคส.กลาง จึงจะถือว่าขั้นตอนสมบูรณ์   

แต่ปรากฏว่า การขนข้าวสารเหนียวชุด 3.5 ล้าน กก. ระหว่างวันที่ 5-26 มี.ค. 2556 ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยรถบรรทุกทั้ง 105 เที่ยว ได้เอกสารไปเพียงใบชั่งน้ำหนัก ขณะที่ "ใบโอนย้าย 4 ฉบับ" อยู่กับนายประพันธ์ ลุนสา ผู้รับมอบอำนาจจากโรงสีฯ

ประพันธ์อ้างว่า เกรงว่าเอกสารสำคัญเหล่านี้จะสูญหาย จึงใช้วิธีตรวจสอบปลายทาง ว่ารถขนข้าวสารไปถึงที่หมายหรือยัง ถ้ารถถึงก็ลงนามในเอกสาร และเก็บรวบรวมไว้จนครบ 105 ใบ จึงจัดส่งทางไปรษณีย์ไปให้ และทำเช่นนี้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยถูกทักท้วง 

แต่อย่างไรก็ตาม โสภิณ จิรายุทธพงษ์ ผู้ประสานงาน อคส.จ.ลพบุรี ระบุว่า ไม่เคยรู้เรื่องข้าวสารล็อตนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายมายังโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ หรือคำสั่งจากอคส.ให้โรงสีปรับปรุงและบรรจุถุง รวมไปถึงการขนข้าวสารถุงออกไป จากเดือนมี.ค.2556 ผ่านไป 6 เดือน กระทั่ง 29 ต.ค.ปีเดียวกัน ก็ได้รับเอกสารใบโอนย้าย จึงไม่ยอมลงนามในเอกสารทั้งหมด นำไปสู่การใช้เป็นหลักฐานแจ้งความ

ในส่วนคดี "ข้าวหาย" ก็มาหยุดอยู่ที่การดำเนินคดีของตำรวจและการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยอคส.ว่า ข้าว ที่ขนจากโกดังกลาง จ.อุดรธานี ได้เข้าไปในโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ จ.ลพบุรีจริงหรือไม่

คดีนี้มีหลักฐานที่อคส.นำมาอ้างอยู่หลายรายการ อาทิ "ใบโอนย้าย" 105 ฉบับ สัญญาของโรงสีที่รับจ้าง อคส.ปรับปรุงและบรรจุถุง คำสั่ง อคส.ปรับปรุงและบรรจุถุง

แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ คำสั่ง อคส.มอบข้าวถุงทั้งหมดให้เอกชนรายหนึ่ง ที่จ่ายเงินซื้อจาก อคส.แล้ว

เอกสารคำสั่งมอบข้าวถุงดังกล่าว เป็นคำสั่ง สั่งจ่าย "ข้าวถุง" ลงวันที่ 21 มิ.ย. 2556 ระบุว่า อคส.โดย น.ส.วีระวัฒน์ วัฒนะฐานะ รอง ผอ. อนุมัติขายข้าว 500,000 ถุงๆ ละ 65.50 บาท รวมทั้งสิ้นเพียง 32,800,000 บาท จากราคาขายปลีกในตลาดสูงถึง 98-112 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอคส.ขายให้เอกชนในราคาต่ำกว่าราคาตลาดถึง 3 เท่า

บทเรียนจากคดีนี้ มีประเด็นน่าสนใจ 2 เรื่อง หนึ่งคือ การยักย้ายข้าวทำให้สูญหายไปอย่างมีปริศนา และ การขายข้าวคุณภาพดีให้เอกชนในราคาถูก

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต