สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ยิ่งลักษณ์ต้องยอมแพ้คดีหนี้ชาวนา

ยิ่งลักษณ์ต้องยอมแพ้คดีหนี้ชาวนา

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวไว้เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2556

ส่งสัญญาณเตือนแรงไปยังรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว

“ผมไม่อยากบอก ไม่อยากเสนอแนะรัฐบาลมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะรัฐบาลเป็นพวกอเวไนยสัตว์ เป็นศัพท์ทางพุทธศาสนา หมายถึงคนที่สอนไม่ได้ ลองไปเปิดดูความหมายกันเอง”

ว่ากันแรงๆตรงๆ หลังจากพยายามเตือนมาหลายรอบ โครงการจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่อนำไปสู่ความหายนะของข้าวไทยทั้งระบบ ทั้งงบประมาณ มหาศาล ที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ตลาดข้าวพังพาบ กลไกต่างๆพังทลายลง

"ปัญหาใหญ่อยู่ที่รัฐบาลเอาข้าวเก็บไว้กับตัวเองตั้ง 17 ล้านตัน การที่จะให้ชาวนาอาบเหงื่อ ต่างน้ำเพื่อทำให้ “ข้าวเน่า” ถือเป็นการทำบาปกรรมกับชาวนาและประเทศ รัฐจะต้องเลิกให้บริษัทที่ผูกขาดการซื้อขายจากรัฐบาล วิธีนี้จะช่วยให้ขาดทุนน้อยลง เวลานี้รัฐบาลขาดทุนมาก เพราะขายข้าวให้พ่อค้ากลุ่มนี้ถูกมากๆ และอย่าไปคิดว่าจะกำหนดราคาข้าวได้ ควรตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว ที่บอกว่าเก็บข้าวไว้ 5 ปี แล้วขายจะได้ราคาดี เขาไม่รู้ว่าข้าว 2 ปีก็เน่าแล้ว"

ในที่สุดคำเตือนว่าล้มเหลวก็กลายเป็นความจริง อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ซื้อหน้าโฆษณาหนังสือพิมพ์ชี้แจง ก็มิอาจหนีความจริงได้ เมื่อรัฐบาลค้างหนี้ชาวนากว่า 1.3 แสนล้านบาท

เป็นความจริงเจ็บปวดที่ทำให้ชาวนาน้ำตาตก ชาวนากดดันจนหัวใจวาย ชาวนาต้องผูกคอตายเพราะถูกเร่งรัดหนี้สิน ขณะที่รัฐบาลไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาว พวกเขามีทรัพย์สินมากมาย เสวยยศ เสวยตำแหน่ง บ้างก็รับประทานอาหารมื้อละหลายหมื่นบาท

ความจริงจะไม่เสียหายมากและน้ำตาตกขนาดนี้ ถ้าทำกระบวนการอย่างจริงใจและโปร่งใส เงินชาวนาที่เป็นหนี้สินอยู่ขณะนี้จะไม่มีปัญหาเลย ถ้าไม่มีขบวนการเหลือบที่หากินบนหลังชาวนา

รัฐบาลจำนำข้าว 4 รอบการผลิตกว่า 26 ล้านตัน ขายออกไปส่งเงินคืนหลวง 1.4 แสนล้านบาท โดยขายให้พรรคพวกใกล้ชิดในลักษณะการผูกขาดเหมือนกับที่ดร.อัมมาร ว่าไว้

ขายไปทั้งหมด 13 ล้านตัน ในราคากิโลกรัมละ 11 บาท ขบวนการนี้เอาไปขายต่อให้พ่อค้าผู้ส่งออกกิโลกรัมละ 20 บาท เงินหายไป 9 บาทต่อกิโลกรัม คิดรวมกรณีขาย 13 ล้านตัน เม็ดเงินส่วนต่างตรงนี้ตกประมาณ 115,000 ล้านบาท ค้างหนี้ชาวนา 1.3 แสนล้านเท่ากับหาเงินอีก 1.5 หมื่นล้านก็ใช้หนี้ชาวนาได้แล้ว ถ้าขายแบบโปร่งใส เปิดประมูลขายให้ผู้ส่งออก ณ ราคาตลาดในขณะนั้น

เงินส่วนต่างส่วนนี้ควรเข้ากระเป๋าชาวนา รัฐไม่จนแต้ม จนตรอก หน้าแตกกู้เงินไม่ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย และพวกเขาก็ไม่ต้องผูกคอตาย

กระบวนการนี้ต้องมีการสอบสวนให้ประจักษ์ ใครเบียดบังเงินหลวงและสร้างความเสียหาย

ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้ต้องหาเงินมาจ่ายชาวนา ทำอย่างไร..? กู้ไม่ได้ ยืมใครไม่ได้ กำลังวิ่งโร่ไปหาโรงสีพวกพ้อง อันนี้ระวังจะกลายเป็นทุจริตย้อนกลับอีกรอบ กรณีพวกจะอาศัยช่องนี้ตัดบัญชีเอา เพราะต้องไม่ลืมว่ามีกรณีข้าวหายจากบัญชีไปอย่างน้อย 2-3 ล้านตันและช่วงนี้มีข่าวข้าวหายอยู่เนืองๆ การไปสมยอมกับโรงสีมาจ่ายเงินให้ชาวนา จะเป็นช่องให้กลบเกลื่อนบัญชีได้ทันที

วิธีการที่เป็นไปได้มากสุด ชาวนาต้องฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเอา ยิ่งลักษณ์และพวกต้องไม่สู้คดีด้วย แล้วหารือกกต.นำเงินงบกลางมาจ่ายค่าแพ้คดีให้กับชาวนา วิธีนี้จะได้เงินเร็วสุด

ก่อนจะมาสอบสวนทวนความกัน ใครทำให้โครงการเสียหายมากมายขนาดนี้ ซึ่งต้องมีผู้รับผิดชอบ

อยู่ที่ยิ่งลักษณ์ จะเห็นใจชาวนาเหมือนที่ลั่นวาจาไว้หรือไม่


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ยิ่งลักษณ์ ต้องยอมแพ้ คดีหนี้ชาวนา

view