สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รับจ้างดำนารายได้เดือนเป็นล้าน! ตัวอย่างเกษตรกรยุคใหม่

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

     ปัจจุบัน รูปแบบและกระบวนการทำนาเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก อย่างขั้นตอนปักดำนาที่ต้องใช้แรงงานคนทำงานจำนวนมาก ในอดีตหากใครต้องการจะดำนา มักจะไปไหว้วานขอแรงเพื่อนบ้าน หรือคนสนิทมาช่วยกันปักดำนา โดยเจ้าภาพจะเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทนน้ำใจ
       
       แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การระดมคนจำนวนมากมาลงแรงเปล่าๆ เป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องใช้วิธีว่าจ้างแทน ทำให้เกิดอาชีพ “รับจ้างดำนา” ซึ่งระยะแรกทำกันครั้งคราว แต่ทุกวันนี้ กลายเป็นอาชีพหลักจริงจังที่สร้างรายได้สูง อย่างกรณีตัวอย่างของ “ไพรัตน์ กลับฝั่ง” เกษตรกรชาวจังหวัดสิงห์บุรี มีรายได้หลักล้านบาทต่อเดือนจากอาชีพรับจ้างดำนา
ไพรัตน์ โชว์ต้นกล้าข้าวที่กำลังจะไปปักดำที่นาของลูกค้า
       ไพรัตน์ เล่าว่า ในอดีตฐานะค่อนข้างยากจนมาก เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวด้วยอาชีพทำนาบนที่ดินผืนเล็กๆ ของตัวเอง ควบคู่กับอาชีพรับจ้างทั่วไปแลกเงิน โดยเฉพาะรับจ้างทำนาเกี้ยวข้าวต่างๆ จนเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว เก็บสะสมทุนได้ก้อนหนึ่งประมาณ 1 แสนบาท จึงเริ่มมองหาช่องทางทำมาหากินที่จะสร้างรายได้มากขึ้น เพื่อครอบครัวจะได้ลืมตาอ้างปาก
       
       จนบังเอิญอ่านเจอโฆษณาของบริษัทขายรถดำนาคูโบต้า กำลังมีโปรโมชั่นให้ดาวน์รถราคาถูก พร้อมมีบริการเสริมสอนวิธีใช้รถดำนา และสอนการเพาะพันธุ์ต้นกล้าข้าวให้ด้วย จึงเกิดความสนใจอย่างมาก เพราะจากที่เคยเป็นลูกจ้างรับจ้างดำนา รู้ดีว่า การทำนาในปัจจุบัน ขาดแคลนแรงงานปักดำนาอย่างมาก จึงตัดสินใจนำเงินเก็บทั้งหมดไปดาวน์รถ เพื่อยึดอาชีพรับจ้างดำนาอย่างจริงจัง
       
       “การรับจ้างดำนาของผมจะทำครบวงจร ตั้งแต่เพาะพันธุ์ต้นกล้าข้าว หลังจากนั้น จะนำไปปักดำให้ตามที่นาของลูกค้า โดยช่วงแรกผมเริ่มทดลองทำในบนที่ดินของตัวเองก่อน ซึ่งได้ผลดี จากนั้น ก็เริ่มไปปักดำนาให้แก่ญาติ และเพื่อนในละแวกใกล้เคียง ก็ได้ผลดีเช่นกัน ซึ่งในเวลานั้น ใน จ.สิงห์บุรี การรับจ้างดำนาโดยใช้รถดำนายังมีน้อย ทำให้มีลูกค้ามาก และเกิดการบอกต่อ ปากต่อปาก จนลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน” ไพรัตน์ เล่าจุดเริ่มต้น
ถาดสำหรับเพาะต้นกล้าข้าว ก่อนนำไปปักดำบนนาของลูกค้า
       เกษตรกรคนเก่ง อธิบายต่อว่า ข้อดีที่ลูกค้านิยมเลือกว่าจ้างดำนาด้วยรถแทนที่จะจ้างดำนาด้วยคน มาจากราคาค่าจ้างที่ถูกกว่า ตัวอย่างบริการปักดำด้วยรถของเขาคิดค่าบริการ 1,500-1,800 บาทต่อไร่ (ขึ้นอยู่กับพันธุ์ต้นกล้าข้าว) โดยเหมารวมทั้งค่าต้นกล้าข้าวจนถึงปักดำเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่หากจ้างคนดำนา ปัจจุบัน อัตราค่าจ้างโดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 2,500-2,800 บาทต่อไร่
       
       นอกจากนั้น ข้อดีของการปักดำ ด้วยรถ คือ ทำงานได้รวดเร็วอยู่ที่ 15-20 ไร่ต่อวัน (ขึ้นอยู่กับสถานพื้นผิวดิน) และปักต้นกล้าข้าวได้เป็นระเบียบ เรียงเป็นแถวตรงสวยงาม แต่ละต้นแวะช่องสม่ำเสมอ ทำให้ดูแลง่าย อากาศถ่ายเทสะดวกเกิดการแตกกอได้ดี ช่วยให้ได้ผลผลิตข้าวในปริมาณสูง เฉลี่ยที่ 120-130 กิโลกรัมต่อไร่
       
       จากเริ่มต้นแค่มีรถดำนา 1 คัน ทำเองแทบจะทุกขั้นตอน ปัจจุบัน เขามีลูกน้องเพิ่มเป็นกว่า 40 คน แบ่งเป็นฝ่ายเพาะพันธุ์ต้นกล้าข้าว 12 คน ที่เหลือเป็นคนงานลงพื้นที่ ส่วนรถปักดำนา เพิ่มเป็น 8 คัน สามารถให้บริการได้ครบวงจรตั้งแต่ เพาะต้นกล้าข้าวได้ทุกพันธุ์ตามความต้องการของลูกค้า ตามด้วย บริการนำต้นกล้าไปปักดำให้ที่นาของลูกค้า รวมถึง บริการให้คำปรึกษาตลอดจนเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวได้ นอกจากนั้น ยังมีบริการอื่นๆ ได้แก่ ขายต้นกล้าข้าว โดยมีพื้นที่เพาะกว่า 8 ไร่ อีกทั้ง ยังมีรถเกี้ยวข้าว อีก 3 คัน สำหรับให้บริการรับจ้างเกี้ยวข้าวด้วย
นำต้นกล้าข้าวขึ้นรถดำนา
       ไพรัตน์ เผยด้วยว่า ปัจจุบัน มีลูกค้ามาว่าจ้างปักดำนาเกือบทุกวัน ในหนึ่งปีจะมีช่วงว่างเพียง 2 เดือนเท่านั้น เนื่องจากในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี มีการทำนากันแทบตลอดทั้งปี โดยเฉลี่ยต่อเดือนจะรับจ้างปักดำนากว่า 1,300 ไร่ หรือคิดเป็นรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือน และหากหักต้นทุนต่างๆ แล้วจะเหลือกำไรประมาณ 40% จากรายได้
       
       หลังประสบความสำเร็จและมีรายได้งามดังกล่าว ทำให้มีเกษตรกรหลายรายสนใจเข้ามายึดอาชีพนี้บ้าง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกรายจะประสบความสำเร็จ ไพรัตน์ แจกแจงในกรณีดังกล่าวว่า สิ่งสำคัญของการรับจ้างดำนา คือ ต้องมีทีมงานที่มีฝีมือ มีความรู้ และที่สำคัญมีความรับผิดชอบ โดยปัญหาส่วนใหญ่ของผู้ทำอาชีพนี้ คือ ลูกน้องไม่รับผิดชอบ ขาดความขยัน จนเสียลูกค้าไปในที่สุด
       
       “ปัจจุบัน ตลาดต้องการคนมารับจ้างปักดำนาอย่างมาก แต่ละเดือนผมต้องปฏิเสธลูกค้าไปจำนวนมาก เพราะไม่สามารถทำได้ทัน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีหลังที่ผ่านมา มีคนหันมายึดอาชีพนี้จำนวนมาก แต่มักมีปัญหาเรื่องลูกน้องไม่ยอมทำงาน ขณะที่ในส่วนของผมที่เอาลูกน้องอยู่ เพราะผมใช้วิธีดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ดูแลเหมือนสมาชิกในครอบครัว ให้ค่าจ้างที่สูงกว่าทั่วไป แต่ละคนรายได้หลักหมื่นต่อเดือน และผมให้ความสำคัญแก่ลูกน้องมาก ถ้าเขาอยู่ไม่ได้เราก็อยู่ไม่ได้ และผมก็สอนให้ลูกน้องเคารพลูกค้า ลูกค้าคือพระเจ้า ถ้าอยากได้อะไร เราต้องทำให้ได้ เพราะถ้าไม่มีลูกค้า เราก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน” เกษตรกรคนขยัน ระบุ
รถดำนากำลังปักดำที่นาของลูกค้า
       ในส่วนของลูกค้านั้น ไพรัตน์ บอกว่า มีตั้งแต่นายทุนรายใหญ่ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะไม่ลงมือทำนาเอง ใช้วิธีซื้อที่ดิน แล้วว่าจ้างชาวบ้านในท้องที่ทำทุกขั้นตอน ซึ่งจะมาจ้างเขาไปปักดำนา นอกจากนั้น ยังได้ชาวนารายย่อยๆ ทั่วไป เพราะกลุ่มนี้ ยังไม่มีศักยภาพพอที่จะซื้อรถดำนาเป็นของตัวเอง ก็จะใช้วิธีว่าจ้างปักดำเช่นกัน
       
       ส่วนผู้ที่สนใจจะมาประกอบอาชีพนี้ ไพรัตน์ เผยว่า มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จเพราะในท้องตลาดยังมีความต้องการสูงมาก และรถดำนา ราคายังไม่สูงมาก เฉลี่ยคันละ 5 แสนบาท สามารถคืนทุนได้เร็ว อย่างไรก็ตาม มีข้อแนะนำ อย่างแรกต้องยอมรับได้ที่จะต้องทำงานหนักและเหนื่อยมาก เพราะเป็นอาชีพที่ต้องอยู่กลางแจ้งแดดร้อนจัด
       
       ข้อต่อมา พื้นที่รับจ้างต้องอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่มีระบบชลประทานพร้อม ซึ่งจะทำนาได้ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ประการต่อมา ต้องดูแลรักษารถอย่างดี มีการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากปล่อยปละละเลย รถจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าควรจะเป็น ก่อให้เกิดภาระการซ่อมบำรุง ทำให้ไม่คุ้มค่าต่อเงินที่ลงทุนไป
       
       สำหรับมือใหม่ที่จะอยากยึดอาชีพนี้ ควรจะมีทุนตั้งต้นประมาณ 2-3 แสนบาท เพื่อใช้เป็นค่าซื้อหารถดำนา และใช้เป็นทุนหมุนเวียน โดยเบื้องต้นหากยังไม่มีความพร้อมทุกด้าน ควรเริ่มเฉพาะรับจ้างดำนาอย่างเดียว ส่วนต้นกล้าข้าวใช้วิธีซื้อหา จนเมื่อมีความพร้อมแล้ว ควรเพิ่มเติมเพาะต้นกล้าข้าวเอง เพราะจะช่วยให้สามารถรับงานได้ครบวงจร และควบคุมพันธุ์ข้าวได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของลูกค้า ช่วยให้ประกอบอาชีพนี้ได้อย่างยั่งยืน

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : รับจ้างดำนา รายได้เดือนเป็นล้าน ตัวอย่างเกษตรกรยุคใหม่

view