สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

Antique Man มือชุบชีวิตสองล้อวินเทจ

จากประชาชาติธุรกิจ



มื่อความนิยมจักรยานวินเทจกลับมาอีกครั้ง ธุรกิจซ่อม ประกอบ จักรยานแนววินเทจก็พลอยคึกคักไปด้วย เนื่องจากจักรยานวินเทจตามตลาดจักรยานมือสองนั้นมีหลากหลายสภาพ ตั้งแต่สภาพดีไปจนถึงสภาพ "ซาก" ยังเรียกพี่ แต่ด้วยความที่รักในวินเทจหลายคนจึงยอมควักสตางค์จ่าย หากซากนั้นคือยี่ห้อ และ รุ่นที่ถูกใจ

ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับ  "แต๋ง" บัญชา ธงขวาง วัย 50 ปี มือชุบชีวิตจักรยาน ร้านบ้านจักรยานฟ้า หรือที่รู้จักกันดีในนาม Antique Man ผู้ก่อตั้งห้องตะบันหมาก เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องจักรยานแนววินเทจ ในชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่อย่าง thaiMBT.com นอกจากนี้ยังมีแฟนเพจในเฟซบุ๊ค ชื่อ บ้านจักรยานฟ้า



บัญชา คลุกคลีกับจักรยานมาตั้งแต่เด็ก ขี่เสือหมอบตั้งแต่เป็นวัยรุ่น มากกว่านักปั่นแล้ว ยังเป็นนักรื้ออีกด้วย เขารื้อจักรยานทั้งคันเพื่อศึกษาว่าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นอยู่ตรงไหน และ ทำหน้าที่อะไร ด้วยตัวเองจนเชี่ยวชาญจักรยานโดยเฉพาะวินเทจสายทัวริ่ง (Randonneur) ที่เป็นรถญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศส สามารถบูรณะรถเก่า หรือที่เรียกว่า บิ้วท์ ให้เพื่อนฝูงคนรู้จักได้ ในที่สุดยึดเป็นอาชีพเสริม รองจากอาชีพขายยาซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมทำมานาน ที่ร้านขายยาจรัญเวชภัณฑ์ ในซอยสนามคลี หรือที่รู้จักในชื่อซอยโปโล ตรงข้ามสวนลุมพินี

บัญชา เจียดพื้นที่ร้านขายยาราว 4 คูณ 4 เมตร เพื่อเป็นอาณาจักรขนาดย่อมสำหรับ บิ้วท์ ซ่อม ประกอบ อัพเกรด Vintage ทุกประเภท touring / Racing / Mtb ในชื่อร้าน "บ้านจักรยานฟ้า"




เปอร์โยต์ คันงาม ของ Antique Man

"ทำเป็นอาชีพ 4 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นเราก็ทำเล่น ทำของเรา ทำให้เพื่อน ทำไปทำมาชักหลายคัน เพื่อนๆ ก็บอกว่าทำแบบเก็บตังค์ไปเลยสิ ไม่งั้นตายนะเนี่ย"บัญชา เล่าที่มา

บัญชา บอกว่า ตอนนี้รถวินเทจทัวริ่งเริ่มนิยมมากขึ้น แม้แต่เด็กวัยรุ่นที่ขี่ฟิกเกียร์ ก็หันมาเล่นทัวร์ริ่งเยอะขึ้น

"เจอเด็กฟิกหลายคนหันมาเล่นทัวริ่งกันเยอะ เขาบอกว่ามันสวย มันคลาสสิค ขี่ไปแล้วสวย คนแต่งก็ชอบ บางคันแต่งไปหมดหลายหมื่น"


บัญชา ธงขวาง 

-จักรยานคันหนึ่งทำอะไรบ้าง

"ของผมทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถที่ไม่ใช่สี นั่นคืองานของผม คันหนึ่งไม่ได้ทำง่ายๆ นะ ไม่ใช่อย่างพ่อค้าทั่วๆไป ที่เขารับรถมาจากญี่ปุ่น บางทีเขาบอกว่าเซอร์วิสแล้ว แต่ก็แค่ระดับหนึ่ง เขาจะไม่ทำอย่างนี้หรอก เพราะว่าเสียเวลาเขา ส่วนมากก็เช็ดๆ หยอดน้ำมัน พอวิ่งได้ก็ไปแล้ว แล้วลูกค้าที่รับรถแบบนั้นมา มาหาผมเยอะมาก เพราะถึงมันจะขี่ได้จริง แต่ว่ามันยังไม่สมบูรณ์ ที่จริงมันต้องขี่ได้ดีกว่านั้น และสวยกว่านั้น สิ่งที่เราทำคือ รื้อทั้งหมด แล้วเราจะเห็นข้างในว่าจุดบกพร่องมีอะไรบ้าง ตรงไหนเสียหาย"


รื้อทุกชิ้นส่วน



-ความยากง่ายในการประกอบรถคันหนึ่ง


จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ถ้าทำบ่อยๆ เอาจริงเอาจัง เรียนรู้กับมันก็ไม่ยากหรอก เพราะว่าประกอบรถไม่ใช่ว่ามาถึงเอาอะไหล่มาให้ผมแล้วประกอบได้เลยไม่ได้นะ ผมต้องดูอะไหล่ก่อน เอามากองวางเรียงเลยว่ารถคันนี้ใช้อะไหล่ตัวนี้ได้ไหม บางทีลูกค้าเอาอะไหล่มาให้ 10 ชิ้น ผมคืน 4 ชิ้น เพราะมันใช้ไม่ได้ ลูกค้าไม่ได้คิดไงว่าจุดนี้มันใช้กับรถคันนี้ไม่ได้เลยนะ มันคนละรุ่นคนละเรื่อง คันหนึ่งอะไหล่เยอะ ผมถอดหมดเลย แล้วผมก็จำเป็นจะต้องถอดมันอย่างนี้ ต้องจำได้ เพราะทำมานานแล้ว พอประกอบแล้วก็เนียน เหมือนรถใหม่

อย่างจานนี่ถอดใบจานออกมาผมต้องล้างหมด แม้กระทั่งรูน็อตก็ต้องล้างหมด ต้องรู้ว่าใบจานน็อตมันมีอะไรบ้าง แล้วค่อยมาประกอบทีหลัง ทุกอย่างทำแบบนี้หมด ไม่ว่าจะเป็นถ้วยคอ เบรก ถอดมาเซอร์วิสหมด อะไรเป็นสนิมผมก็ขัด เราจะไม่เปลี่ยน สาเหตุที่ไม่เปลี่ยนเพราะว่าอะไหล่มันหายาก(ยิ้ม) บางทีจะเปลี่ยนก็ต้องไปเอาอะไหล่จากรถอีกคันมาใส่ แต่ถ้าไม่มีจริง ก็ต้องขัดให้สนิมน้อยที่สุด พวกนี้ถอดออกมาเป็นชิ้นเรียงกันเลย เช็ดตากแห้งเป่าลม แล้วเราค่อยประกอบเข้าไปเป็นชิ้น ทุกอย่างจะเป็นแบบนี้หมด คือ เหมือนถอดมาจากโรงงานแล้วเป็นชิ้นๆ มาแล้วให้โรงงานจักรยานประกอบ เราก็ต้องถอดแบบนั้น  

พวกนี้พอเซอร์วิสแล้วจะกลับมาดีได้เกือบ 100% เลยนะ ถ้าไม่นับว่าผุจนทะลุ หรือ สนิมเต็ม อย่างสีส้มเห็นไหม ยี่ห้อมารูชิ แบรนด์ญี่ปุ่น ยุคประมาณต้น′70 คันนี้มาแบบซากเลยนะ สั่งทำใหม่ทั้งคันโดยที่เก็บของเดิมเอาไว้ เพราะเขาชอบ อะไหล่บางชิ้นหายากมาก เบรกก็ไม่ค่อยมีเข้ามาบ่อย จานก็หายากมาก แล้วก็สั่งทำสีใหม่โทนสีเดิม  แล้วลบรอยบุบใหม่ โป้วใหม่ ทำใหม่หมดเลย


ตัวอย่างจักรยานที่บิ้วท์จาก บ้านจักรยานฟ้า



-มาตรฐานการพ่นสี


ผมส่งเพื่อนทำ เนี้ยบมาก ทุกคนยอมรับ เป็นอู่พ่นสี แล้วเขามีความชำนาญในการพ่นสีจักรยาน การพ่นสีจักรยานไม่เหมือนพ่นสีรถยนต์ พ่นสีตู้เย็นนะ จักรยานยากกว่าเป็น 10 เท่า  เห็นเล็กๆ อย่างนี้ บางคนพ่นรถยนต์เก่ง พ่นจักรยานไม่เก่งก็มี ที่ยากเพราะว่ารถเก๋งกับตู้เย็นก็เหมือนกันออกแบนๆ เหลี่ยมๆ แต่จักรยานต้องพ่น 360 องศา ทุกท่อกลมสีต้องเข้าถึงแลกเกอร์ต้องเข้าถึง ต้องเนียนทุกจุด ซึ่งตรงนี้รถยนต์ก็ไม่มี

-ความนิยมมากขึ้น ทำให้ราคาจักรยานมือสองแพงขึ้นด้วย


การเติบโตของจักรยานมากขึ้น แล้วของก็หายากขึ้นด้วย อะไรก็แพงขึ้น ค่าแรงไม่ขึ้น แต่ของน่ะขึ้น หามาแล้วกัน มันต่างจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วเยอะ ราคาอีกราคาหนึ่ง ปัจจุบันอีกราคาหนึ่ง อย่าง บริดจสโตน ยูเรเซีย วันนี้ราคา 8 พันบาท เมื่อ 4 ปีก่อน คันนี้ 4,500-5,000 บาทเองนะ



-เสน่ห์ที่แตกต่างระหว่างจักรยานเก่ากับจักรยานใหม่


คน ละเรื่อง ยกตัวอย่างผมไม่เอ่ยชื่อยี่ห้อแล้วกันจักรยานปัจจุบันที่ทำออกมาในแบบรถวิ นเทจแต่เป็นรุ่นใหม่แล้วราคาหมื่นกว่าบาทพวกอะไหล่ต่างๆมาจากจีนซึ่งมาตรฐาน จีนต่ำสุดไต้หวันดีขึ้นมาหน่อย ที่สุดคือญี่ปุ่นแท้ รถที่มาทำกับผมญี่ปุ่นแท้ทุกชิ้น ไม่มีอันไหนเป็นจีน สิงคโปร์ หรือ ไต้หวันเลย แล้วเราต้องมีความรู้ด้วย อย่างเบรกชุดนี้เราต้องรู้ว่านี่จากญี่ปุ่น สมัยนี้จีน ไต้หวันไม่มีแล้ว เกรดดีกว่าเพราะค่าแรงมันแพง

-มีคนบอกว่ารักจะเล่นจักรยานวินเทจต้องใจเย็น


ต้องใจเย็นครับ เพราะบางทีอะไหล่ไม่มี จะไปเอาของจีน ไต้หวันมาใส่มันก็ไม่ได้ ก็ต้องรอจนกว่าเพื่อนจะโทรมาบอกว่าจะมีระเบิดรถนะ ก็รอ รอแฮนด์ตัวเดียวเลยก็รอ มันก็เลยนาน แล้วเราก็พักงานนั้นไว้ไปทำอย่างอื่น ดังนั้นลูกค้าก็ต้องใจเย็น ผมถามก่อนเลยว่ามีรถใช้หรือเปล่า มีรถสำรองคันอื่นไหม ถ้ามีก็โอเคทิ้งไว้ได้ เพราะนานนะครับ เป็นเดือน บางคนก็รอ บางคนก็ไม่รอ

"ลูกค้าต้องอดทนทนครับ เป็นเดือนครับ(หัวเราะ) บางคัน 3 เดือน 4 เดือนก็มี เพราะว่ามันไล่มาตามคิว แล้วผมทำคนเดียวทุกอย่างต้องทำเองหมดเลย เพราะว่ามันจ้างลูกน้องก็ลำบากนะ มันไม่ได้ดั่งใจเรา ลูกค้ารอคิว 30 คันก็ถือว่าเยอะแล้วสำหรับผม เพราะว่าเดือนหนึ่งผม 5 คันก็เก่งแล้วนะ คันหนึ่งใช้เวลานาน ผมทำรถครึ่งวันหลัง คือ ช่วงเช้าถึงบ่ายจะอยู่หน้าร้านขายยา แล้วทำรถช่วงบ่ายถึงเย็นอาจจะถึงดึกแล้วแต่ เพราะงานส่วนตัวมันไม่มีเวลาอยู่แล้ว เหนื่อยก็พัก หรือ ทำก็ทำยาวไปเลยถึงดึกก็มี"





-คิดค่าใช้จ่ายอย่างไร

ค่าแรงผมยืนพื้น 2,000 บาท นั่นคือเซอร์วิสหมดทั้งคัน เฉพาะค่าแรง แต่จะเปลี่ยนอะไหล่ จะเปลี่ยนยางเบรก จะเปลี่ยนยางใน จะเปลี่ยนโซ่ นี่คือราคาตามจริง ตามท้องตลาด ลูกค้าจะซื้อมาให้ผมก็ได้ หาให้ผมหาให้ก็ได้ถ้ามีเวลา บางคนเสียแค่ค่าแรงอย่างเดียวก็มี คืออะไหล่เขาปกติอยู่แล้ว อาจจะเป็นคนเก็บไว้นานไม่ได้ใช้ หรือซื้อต่อใครมา ต้องการชุบชีวิตมันขึ้นมาใหม่ โอเคผมถอดรื้อหมดเลย แล้วดูว่ามันจุดบกพร่องตรงไหน  

ลูกค้าที่มา ผมตีราคากันหน้าบ้านเลยนะ อย่างทำสีเนี่ย 3,800 บาท เนียนๆ เลย  อะไรที่เปลี่ยนได้ผมก็เปลี่ยน อะไรที่คงเดิมได้ก็คงเดิม ผมต้องดูละเอียด เช่น จานเบี้ยวมาไหม ดร็อปเอาท์งอหรือเปล่า  บอกกันตรงนั้นเลยว่ารถมีปัญหาอะไร เขาจะได้รู้

บางคนผมสอนเลย เวลาไปซื้อรถมือสองให้ติดเครื่องไม้เครื่องมือไปบ้าง วิธีดูหลักอาน ดูสเต็มว่ามันติดไหม พ่อค้าบางคนบอกไม่ติดหรอก ผมบอกขอไขแล้วกัน เอาประแจ เบอร์ 5 กับ 6 ไปไขหลักอานเลย ขยับได้ก็จบ สเต็มถอดได้ไหม เพราะด้านในมันจะมีขี้เกลือ ตะกอนแล้วก็สนิมรวมกันมันสามารถทำให้อะลูกับเหล็กจับกันแน่นจนเป็นเนือ้เดียวกันแล้วเอาออกไม่ได้ แล้วก็หมุนจานเลย ว่าจานมันเบี้ยวไหม 3 ใบ มองในแนวตั้ง ดูว่าจานมันส่ายหรือเปล่า ถ้ามอง 3 ใบในแนวตั้งไม่ค่อยส่ายเท่าไหร่ก็โอเคใช้ได้ ดูว่าล้อคดไหม มันดุ้งไหม ตะเกียบดูว่าชนไม่ชน เอาไม้บรรทัดยาวๆ ไปวัดเลย ทั้งท่อคอและท่อตะเกียบ ต้องขนานเป็นแนวเดียวกันลงมาเลย คือรถญี่ปุ่นมันนานแล้วไง ผมบอกลูกค้าว่าให้ทำอย่างนี้พ่อค้าเขาไม่ว่าหรอกเขาจะขายของเขาต้องแฟร์  ลูกค้าบางคนไม่ได้สนใจจุดนี้ไม่ได้ดู





ถือเป็นทางเลือกของคนรักวินเทจที่หาไม่ได้ตามร้านทั่วไป เป็นความคลาสสิคที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ในสภาพที่ถ้าเจ้าของเก่ามาเห็นต้องอ้าปากค้าง!!




ภาพ thaiMTB.com


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : Antique Man มือชุบชีวิต สองล้อวินเทจ

view