สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

การบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพ - หลากเรื่องราว

จาก เดลินิวส์ออนไลน์

เปิดดูเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์ มีสิ่ง ที่น่าสนใจหลากหลายเรื่อง เว็บนี้มิได้ลงเฉพาะกิจกรรมของบุคลากรในหน่วยงานเท่านั้น แต่มีงานวิจัยต่าง ๆ และบทความที่ให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก บางเรื่องหลายเรื่องเป็นเรื่องในการบริโภคอุปโภคในชีวิตประจำวันของคนเรา แต่บางคนอาจมิได้ตระหนัก ด้วยไม่รู้หรืออะไรก็แล้วแต่ เช่นเรื่องที่ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ วันนี้คือเรื่อง “การบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพ” นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจและควรรู้เป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังนิยมชมชอบการ บริโภคเนื้อสัตว์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพของร่างกาย  สรุปได้คือ

1. เนื้อสัตว์เป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนสูง เป็นโปรตีนที่มีคุณค่าทางโภชนะสูง  และถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายได้เกือบหมด เนื้อสัตว์มีโปรตีนอยู่สูงถึง 20% และมีกรดอะมิโน  lysine  และ  taurine ในปริมาณสูง  เมื่อเทียบกับปริมาณโปรตีนที่ได้จากอาหารอื่น

2. เนื้อสัตว์ประกอบด้วยวิตามินหลายอย่าง ได้แก่  B1, B6, B12, A, D, E, K และ C โดยเฉพาะวิตามิน C มี อยู่มากในผลิตภัณฑ์เนื้อ  เช่น  ไส้กรอก  แฮม  เป็นต้น  นอกจากนี้ในผลิตภัณฑ์เนื้อกลุ่มหมักเปรี้ยว เช่น  แหนม ซาลามี่ ยังมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น  แลคโตบาซิลัส

3. เนื้อสัตว์ประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย  และมักจะพบอยู่น้อยมากในแหล่งอาหารอื่น ๆ  แต่จะมีมากในเนื้อสัตว์ คือ ธาตุเหล็ก สังกะสี ซีลิเนียม

4. เนื้อสัตว์ที่จะนำมาปรุงอาหาร   หากต้องการความนุ่มควรเป็นเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการบ่มเนื้อ (ageing)  เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน  ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีภายในเนื้อ  ได้แก่  การให้เอนไซม์ในเนื้อมีโอกาสมาย่อยโปรตีนบางส่วน  ทำให้เนื้อสัตว์พ้นสภาวะการหดตัวอย่างถาวรของเส้นใยกล้ามเนื้อ โดยในสุกรควรบ่มเนื้อประมาณ 2 วัน ในโคประมาณ 7-14 วัน เพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่มน่ารับประทานมากขึ้น

5. การปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ควรมีไขมันเนื้อสัตว์ติดปนอยู่กับชิ้นเนื้อบ้าง เพราะจะทำให้เนื้อนั้นไม่กระด้างเมื่อถูกความร้อนขณะปรุงอาหาร โดยไขมันจะช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดการสูญเสียน้ำไปได้โดยง่าย นอกจากนี้ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันติดมาบ้างจะมีกลิ่นและรสชาติที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ที่ไม่ ติดไขมันเลย

6. เนื้อสัตว์จะมีสารพิษตกค้างอยู่น้อยมาก  เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารประเภทอื่น ๆ  ที่มีโอกาสของการตกค้างของสารพิษสูงกว่า  เช่น  ผัก  ผลไม้ และอาหารทะเล

7. เนื้อสัตว์ที่เลาะเอาไขมันและพังผืดออกแล้ว จะมีไขมันเป็นองค์ประกอบในปริมาณต่ำ คือ มีไขมันเป็นองค์ประกอบเพียง  1–2% เท่านั้น ดังนั้นเนื้อสัตว์ที่แต่งเอาไขมันออกบ้างแล้วจึงเป็นอาหารที่มีองค์ประกอบ ทางโภชนะสูงและให้พลังงานต่ำ

8. การย่างเนื้อไม่ควรมีไขมันหรือคราบเก่าของไขมันจากสัตว์ที่หยดลงบนภาชนะที่ ย่างครั้งก่อน ๆ ติดทิ้งไว้  หรือปล่อยให้ไขมันสัตว์หยดลงบนถ่านไฟ  เนื่องจากควันไฟที่เกิดจากการที่ไขมันสัตว์ถูกเผาไหม้อาจจะมีสารก่อมะเร็ง ดังนั้น ถ้าใช้เตาถ่านในการย่างเนื้อก็ควรเคาะถ่านให้หยดไขมันที่ไหม้ไฟหลุดออกไป หรือการป้องกันที่  คือ เตาย่างไฟฟ้าแบบที่ให้ความร้อนจากด้านบน  นอกจากนี้การใช้อะลูมิเนียมฟอยล์ปูพื้นเตาไฟฟ้าหรือเตาย่างแบบใช้ก๊าซให้ ความ ร้อน  ก็ช่วยป้องกันการเกิดติดค้างของไขมันบนเตาย่างได้เป็นอย่างดี

9. การประกอบอาหารจากผลิตภัณฑ์เนื้อที่มีการเติมเกลือไนไตรต์ เพื่อลดโอกาสการปนเปื้อนของจุลินทรีย์  เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์  และช่วยให้ผลิตภัณฑ์เนื้อมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้นนั้น  ไม่ควรให้ความร้อนสูงผ่านโดยตรงกับผลิตภัณฑ์  เช่น  วิธีการทอดโดยน้ำมันร้อนจัด  เพราะอาจมีโอกาสเกิดสารไนโตรซามีน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย จึงไม่ควรใช้เวลาในการทอดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนานเกินควร หรือใช้ความร้อนสูงเกินความจำเป็นในการทำให้สุก  วิธีการที่เหมาะสมในการทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวร้อนควรใช้การลวกในน้ำร้อน หรือโดยการนึ่ง

10. เนื้อแช่เยือกแข็ง (frozen  meat)  หากผ่านการทำให้ละลายที่ถูกวิธีจะรักษาคุณภาพคงเดิมไว้ได้ตามปกติการเก็บ รักษาเนื้อสัตว์โดยวิธีการแช่แข็ง (-18 ถึง-30 องศาเซลเซียส) จะช่วยให้สามารถเก็บรักษาเนื้อไว้ได้นานโดยไม่เสื่อมคุณภาพ และหากนำเนื้อสัตว์แช่แข็งมาทำการละลาย (thawing) อย่าง ถูกวิธีจะไม่ทำให้คุณค่าทางโภชนะของเนื้อสัตว์นั้นลดลงไป แต่ถ้านำไปละลายโดยไม่ถูกวิธี  เมื่อนำเนื้อสัตว์นั้นไปประกอบอาหารจะทำให้คุณค่าทางโภชนะ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนลดลงได้ เนื้อที่ผ่านกระบวนการแช่แข็งอย่างรวดเร็ว (quick  frozen) สามารถนำมาทำให้ละลายอย่างรวดเร็วได้ โดยการนำเนื้อที่ได้ดังกล่าวใส่ในถุงพลาสติกที่ปิดสนิทแล้วแช่ในน้ำอุ่น

แต่ถ้าเนื้อที่ผ่านการแช่แข็งแบบธรรมดา ควรนำมาทำให้ละลายอย่างช้า ๆ โดยการนำไปใส่ภาชนะแล้ววางไว้ในตู้เย็นซึ่งจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน หากต้องการให้ละลายเร็วก็ควรนำมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง แต่ทั้งนี้ต้องระวังการปนเปื้อนจุลินทรีย์ด้วย  ซึ่งจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ถ้าอุณหภูมิในเนื้อนั้นเพิ่มขึ้น 

...ส่วนเนื้อแช่แข็งที่ผ่านการละลายแล้วไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งอีก เนื่องจากคุณค่าทางโภชนะได้ลดลง และเนื้อได้มีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในระหว่างการละลายน้ำแข็ง


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : การบริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อสุขภาพ หลากเรื่องราว

view