สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ล้อมคอกท่องเที่ยว เชียงคาน หวั่นเมืองแตกซ้ำรอย ปาย

จากประชาชาติธุรกิจ

ภาพประกอบ payathai2009

ต้องยอมรับว่าเวลานี้ "เชียงคาน" เป็นเมืองเป้าหมายและเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวที่รักความสงบ ความเรียบง่าย  และใช้สำหรับหลบความวุ่นวายในเมืองหลวงไปชาร์จพลัง


แต่ทันทีที่กระแสการท่องเที่ยวบูม  บวกกับแรงโปรโมตเรื่อง "อีโคทัวริซึ่ม" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปสัมผัสเชียงคานอย่างล้นหลาม
ว่ากันว่า  ตัวเลขนักท่องเที่ยวของเชียงคานปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จาก 260,584 คน เมื่อปี 2554 เพิ่มเป็น 381,866 คนในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นราว ๆ 1.2 แสนคน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท  โดยฤดูท่องเที่ยวของเมืองเล็ก ๆ ริมโขงแห่งนี้ คือ ตั้งแต่พฤศจิกายนยาวไปจนถึงกุมภาพันธ์  ขณะที่ในฟากของที่พักก็มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดขึ้นร่วม 200 ราย รวมกว่า 1,000 ห้องพัก


จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้หลายหน่วยงานเป็นห่วงว่า  หากปล่อยให้นักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาตามกระแสโดยไม่มีแผนรองรับที่ดี อาจจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ "เมืองแตก" เหมือนกับที่เคยเกิดกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อ 4-5 ปีก่อน  เมื่อครั้งนั้นถึงขนาดว่า นักท่องเที่ยวแห่ไปเที่ยวจนน้ำมันหมดปั๊ม นักท่องเที่ยวแย่งกันกินแย่งกันใช้  ฯลฯ ขณะที่ฟากผู้ประกอบการ "ที่พัก" ต่างก็แห่กันลงทุนกันอย่างคึกคัก ทั้งโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์  โฮมสเตย์ ผุดขึ้นราวดอกเห็ด


องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สนับสนุน "โครงการเชียงคานกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน" เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเชียงคานที่มีผลมาจากการท่องเที่ยวในหลากหลายมิติ  โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ พร้อมทั้งนำประเด็นที่น่าสนใจมาตั้งวงเสวนา  โดยคนในชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อนำไปสู่การหาวิถีทางทำให้เชียงคานมีการท่องเที่ยวและยั่งยืน


ขณะเดียวกันก็ใช้ "หนังสั้น" 4 เรื่อง ความยาวเรื่องละ 20 นาที เป็นเครื่องมือในการนำเสนอประเด็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  เพื่อกระตุ้นความร่วมมือและหาแนวทางในการพัฒนาเมืองร่วมกัน
ทั้งนี้พบว่าประเด็นปัญหาที่คนในชุมชนเป็นห่วงคือ การท่องเที่ยวทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสูงมาก สูงจนคนในพื้นที่ตั้งรับไม่ทัน  กายภาพของชุมชนก็เริ่มกลายเป็นชุมชนเมือง  นักท่องเที่ยวที่มาต่างก็คาดหวังว่าเมื่อมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามก็ต้องมีห้องพักที่ดีด้วย  สภาพบ้านพักจากที่เป็นโฮมสเตย์ธรรมชาติกลายเป็นที่พักติดแอร์ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวก
อื่น ๆ  อีกสารพัด เรียกได้ว่าสิ่งที่ "เชียงคาน" เป็นอยู่ในวันนี้แทบจะเดินตามหลัง "ปาย" ไปติด ๆ  หากยังเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่า "เชียงคาน" จะเกิดความล้มเหลวในวันข้างหน้าแน่นอน


จึงอยากให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องของเมืองเชียงคาน  รีบบริหารจัดการระบบ โครงสร้างของเมืองให้ "เชียงคาน" เติบโตได้อย่างยั่งยืน  เติบโตและก้าวหน้าไปอย่างมีสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม


ที่สำคัญ  เพื่อหยุดยั้งปัญหาและคุมไม่ให้มีปรากฏการณ์ประกาศขายกิจการเหมือนกับที่ "ปาย" เผชิญ


"ทัศน์พงษ์  สุขศิริ" รองนายกเทศมนตรีตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย บอกว่า  ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลเชียงคานได้ตั้งรับไว้แล้วหลายเรื่อง อาทิ ออกแบบเทศบัญญัติคุมโครงสร้างอาคาร  บ้านเรือน ให้อยู่ในกรอบตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เช่น ให้ทำอาคารได้แค่ 2 ชั้น ความสูงไม่เกิน 10 เมตร  พื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร การทำโซนนิ่ง สร้างถนนคนเดินให้เป็นถนนวัฒนธรรม  สร้างบรรยากาศเมืองเชียงคานให้เป็นเมืองสำหรับการพักผ่อนโดยเฉพาะ  เป็นต้น


และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกหลายเรื่อง เช่น  การบริหารจัดการด้านการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ออกกฎห้ามจำหน่ายสุราในพื้นที่ที่กำหนด  ยุติกิจกรรมทุกอย่างไม่เกิน 4 ทุ่ม ประกาศให้เป็นเมืองที่ใช้จักรยาน 100% เป็นต้น  เพื่อตอบโจทย์ความเป็นเมืองพักผ่อน


จึงเชื่อมั่น "เมืองเชียงคาน" ยังอยู่ในวิสัยที่สามารถบริหารจัดการได้ เป็นเมืองที่มี "อัตลักษณ์" ที่ชัดเจน  และไม่เกิดปรากฏการณ์ซ้ำรอย "ปาย" เป็นแน่


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ล้อมคอก ท่องเที่ยว เชียงคาน หวั่นเมืองแตก ซ้ำรอย ปาย

view