สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เปิดเครือข่าย เวียนเทียน ข้าว งาบส่วนต่าง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เปิด กระบวนการพ่อค้าสร้างเครือข่ายร่วมกลุ่มโรงสี 7 จังหวัด สมคบใช้ข้าวโครงการรับจำนำโกดังรัฐ "เวียนเทียน" ขายในตลาด งาบส่วนต่าง 2-3 พันบาท
การ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ถึงโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวของรัฐบาล โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นเรื่องที่ต้องสอบอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

นพ.วรงค์ ระบุว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (3 ธ.ค.) จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสโครงการรับจำนำข้าว และโครงการระบายข้าวของรัฐบาล พร้อมนำเอกสารหลักฐาน 8 รายการ 1.ภาพถ่ายสำเนาแคชเชียร์เช็ค ของธนาคารกสิกรไทย 2.หนังสือมอบอำนาจของบริษัทสยามอินดิก้า 3.แผนภูมิเส้นทางการโอนเงิน 4.ภาพถ่ายแคชเชียร์เช็ค 6 ฉบับ สั่งจ่ายถึงกรมการค้าระหว่างประเทศ ของธนาคารไทยพาณิชย์ 2 ฉบับและธนาคารกสิกรไทยอีก 4 ฉบับ

5.ภาพ ถ่ายรายละเอียดบัญชีออมทรัพย์ ของธนาคารกรุงไทย 6.หนังสือมอบอำนาจการซื้อข้าวของ บริษัทจีเอสเอสจี (GSSG IMP AND EXP.CORP) 7.หนังสือมอบอำนาจของนายรัฐนิธ และ 8.แผ่นซีดีภาพถ่ายยื่น ป.ป.ช.
ดึงโรงสีสร้างเครือข่ายจำนำ-ระบายข้าว

แหล่ง ข่าวโรงสีข้าว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีกลุ่มโรงสีเข้าร่วมเครือข่ายกับโครงการระบายข้าวของ รัฐอยู่หลายพื้นที่ ถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ส่วน กลุ่มโรงสีที่เป็นตัวเชื่อมหลักในการนำข้าวของรัฐบาลออกจากโกดัง ส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดลพบุรี พิจิตร นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงราย ฉะเชิงเทรา และกำแพงเพชร เมื่อใดที่รัฐบาลประมูลขายข้าวให้กับผู้ส่งออกกลุ่มโรงสีในพื้นที่ดังกล่าว ก็จะนำข้าวไปขายให้ โดยมีบริษัทเซอร์เวเยอร์ ที่ตั้งขึ้นมาเป็นของตัวเอง 2-3 ราย อยู่ข้างหลัง

"วิธี การก็คือ เมื่อรัฐเปิดประมูลข้าว กลุ่มเหล่านี้ก็จะนำข้าวจากโครงการรับจำนำออกไปขายเพื่อรับเงินสด ก่อนนำเงินที่ได้ไปซื้อข้าวคุณภาพต่ำมาใส่คืนในโกดัง หรือใช้วิธีเปาเกาคือให้ผู้อื่นซื้อข้าวส่งมอบแทน เท่ากับข้าวคุณภาพดีๆ นำออกไปขายหมด"

@เปิดกระบวนการเวียนเทียนกินส่วนต่าง

แหล่ง ข่าวกล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าว คือสาเหตุที่รัฐบาลไม่ได้มีการขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) จริง กล่าวคือเมื่อรัฐบาลเปิดประมูลขายข้าว โดยเฉพาะข้าวขาว 5% ปกติราคาในตลาดอยู่ที่ตันละ 17,000-18,000 บาท ส่วนข้าวที่รัฐนำออกมาประมูลมีอยู่ 2 ส่วน 1.ข้าวตกค้างในโกดังหรือข้าวเสื่อมคุณภาพ ราคาเฉลี่ยตันละ 12,000-13,000 บาท ข้าวคุณภาพดีจะอยู่ที่ตันละ 16,000-17,000 บาท ขณะที่ต้นทุนข้าวขาว 5% ของรัฐบาลที่รับจำนำรวมค่าใช้จ่ายอยู่ที่ตันละ 24,000 บาท

"ราคา ที่ต่างกันก็จะมีพ่อค้าหัวใสเอาข้าวคุณภาพต่ำที่ประมูลมาได้ ขายให้กับกลุ่มโรงสีของตัวเอง เพื่อนำข้าวย้อนกลับส่งเข้าในคลังรัฐบาล แล้วนำข้าวจากโครงการรับจำนำ ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีขายในตลาดตันละ 17,000-18,000 บาท ตรงนี้ก็จะเกิดส่วนต่างของราคาขึ้นมาทันทีตันละ 2,000-3,000 บาท เป็นการเวียนเทียนข้าวเกิดขึ้นในประเทศ โดยไม่ได้มีการขายแบบจีทูจีจริง" แหล่งข่าวกล่าว และว่าเมื่อนำเข้าเข้าโกดังของรัฐก็จะนำเอาข้าวคุณภาพดีล้อมไว้รอบๆ แต่ตรงกลางจะเป็นข้าวคุณภาพต่ำ

การ นำข้าวคุณภาพต่ำย้อนกลับเข้าโกดังนั้น รัฐบาลก็ใช้กระสอบเก่าที่มีต้นทุนลูกละ 20 บาท ขณะที่รัฐให้ค่ากระสอบลูกละ 50 บาท ตรงนี้ก็สามารถกินส่วนต่างได้อีก โกดังที่เกิดขึ้นมาอย่างมากในตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นโกดังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่อยู่ในจังหวัดพิษณุโลก และนครสวรรค์

ขณะ เดียวกันโครงการการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท กลายเป็นนโยบายที่ทำให้เกิดการรั่วไหลมากที่สุด แต่กลายเป็นนโยบายที่ทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคชื่นชอบ เพราะแต่ละพรรคก็มี ส.ส.ของตัวเอง มีโรงสีทั้งนั้น หากโรงสีกลุ่มใดเข้าถึงนักการเมือง ก็จะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการ

ปัจจุบัน ทั่วประเทศมีโรงสีที่ขึ้นทะเบียนไว้ทั้งโรงสีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ประมาณ 40,000 ราย แต่จะมีโรงสีขนาดใหญ่อยู่ประมาณ 3,000 รายในจำนวนนี้เป็นโรงสีที่สามารถเข้าร่วมโครงการกับรัฐบาลได้เพียง 600 กว่ารายเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความโรงสีทั้ง 600 รายจะได้เข้าร่วม

@ใช้เครือข่ายเพรซิเดนท์จัดการเบ็ดเสร็จ

ส่วน กรณีที่มีการจัดตั้งบริษัท 2 บริษัท โดยเป็นบริษัทคนไทย 1 บริษัทที่มาจากจีนชื่อ "GSSG IMP AND EXPORT CORP" อยู่ที่เมืองกวางเจา และบริษัทจีน 1 บริษัท เรื่องนี้มีกลุ่มโรงสีกลุ่มหนึ่งเข้าร่วมกระบวนการด้วย กลุ่มคนที่เป็นตัวเชื่อมในการขายข้าวส่วนใหญ่มาจากบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้งเก่า ซึ่งล้มละลายไปแล้ว แต่ตัวบุคคลยังอยู่ เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในวงการค้าข้าวและรัฐบาลมาก เป็นผู้คอยเชื่อมโยงการรับจำนำ หรือการระบายข้าวในพื้นที่ กลุ่มนี้มีอิทธิพลมากถึงขั้นตั้งโต๊ะขายข้าวให้ใครต่อใครก็ได้ ถ้าใครอยากได้ข้าวส่งออกต้องติดต่อกลุ่มนี้เท่านั้น

"เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทำให้โรงสีที่มีพฤติกรรมดีๆ รู้สึกท้อใจ แต่จากการที่ฝ่ายค้านนำมาเปิดเผย คงทำให้สังคมแยกแยะได้ว่ายังมีโรงสีที่เป็นน้ำดีเหลืออยู่อีกจำนวนมาก วันนี้โรงสีจำนวนมาก เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากให้หน่วยงานที่ตรวจสอบเอาจริงเอาจังกับเรื่องทุจริตโดยเฉพาะเจ้า หน้าที่รัฐ"

@ปปช.เตรียมเปิดผลสอบจำนำข้าว

แหล่ง ข่าวจาก ป.ป.ช. กล่าวว่า ในส่วนของ ป.ป.ช. หลังจากส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อเสนอแนะป้องกันการทุจริต กรณีการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น เนื่องจาก ป.ป.ช.เห็นว่าตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าว ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มาก โดยเฉพาะปัญหาการทุจริตทั้งในเชิงนโยบาย และในส่วนของขั้นตอน กระบวนการดำเนินการของโครงการ จึงคาดว่า เร็วๆ นี้ อาจมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงของการตรวจสอบ

ทั้งนี้ การตรวจสอบได้ลงลึกทุกขั้นตอนตั้งแต่การตั้งราคา การออกใบประทวน การสวมสิทธิจำนำข้าว คาดจะเปิดเผยผลการตรวจสอบเร็วๆ นี้

"ที่ ผ่านมา ป.ป.ช.ก็ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำอยู่แล้ว แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องมา เราพร้อมที่จะนำมาพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่เลย หากกรรมการเห็นว่ามีข้อมูลมากพอ ป.ป.ช.ก็จะตั้งอนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้ทันที ข้อมูลที่เราได้มาบ่งบอกอะไรพอสมควร มีข้อน่าห่วงอยู่มาก"

@"หมอวรงค์" ยื่น ปปช.สอบทุจริตจำนำข้าววันนี้

นายองอาจ คล้ายไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ (3 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ตนพร้อมด้วย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ จะไปยื่นข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ถึงการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เพราะหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผ่านไปแล้ว 7 วัน รัฐบาลยังนิ่งเฉยไม่ชี้แจงต่อข้อกล่าวหา ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบที่จะหยุดยั้งการทุจริต ในขั้นตอนต่างๆ ทั้ง 3 ขั้นตอน 1.ขั้นตอนการรับจำนำข้าว 2.ขั้นตอนการเก็บรักษาข้าวในโกดัง 3.การระบายข้าว

ขณะ นี้ โครงการฯ ของรัฐบาลอยู่ในขั้นการระบายข้าว โดยในงบประมาณปี 2556 หากรัฐบาลไม่มีการแก้ไขก็จะทำเหมือนเดิม ปัญหาการทุจริตก็เกิดขึ้นอีก

@"บุญทรง" เต้นตั้งกรรมการสอบขายข้าวจีทูจี

นาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ (3 ธ.ค.) จะหารือกับนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบสัญญาการซื้อขายข้าวจีทูจี เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หลังหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้นำไปขยายความไปไกลเกินไป จนอาจจะกระทบกับความรู้สึกของจีน เพราะการลงนามในบันทึกความตกลง (เอ็มโอยู) กับจีน ระบุชัด ไม่มีการระบุปริมาณการซื้อขายเอาไว้ ทางทูตของจีนได้ชี้แจงสาระของเอ็มโอยูเท่านั้น ซึ่งก็ตรงกับที่รัฐบาลดำเนินการไปก่อนหน้านี้

อย่าง ไรก็ตาม ในช่วงก่อนที่จะมีการลงนามในเอ็มโอยูกับจีน ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางมาเยือนไทย กระทรวงพาณิชย์ได้เคยเสนอ ครม.เพื่อลงนามเอ็มโอยูซื้อขายข้าวกับจีน โดยกำหนดปริมาณไว้ปีละ 5 ล้านตัน เป็นเวลา 3 ปี แต่จีนได้ขอให้ถอดปริมาณออก และมีการลงนามในเอ็มโอยู เพื่อแสดงว่ามีความร่วมมือในเรื่องข้าวร่วมกันเท่านั้น

นาย บุญทรง กล่าวว่า แนวทางการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ จะขอให้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารที่เกี่ยวข้องสัญญาซื้อขาย โดยเฉพาะคุณสมบัติความเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ตรวจสอบว่า คู่สัญญาได้ทำการปฏิบัติผิดสัญญาต่อกรมการค้าต่างประเทศหรือไม่อย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเลือกปฏิบัติและทำอย่างตรงไปตรงมา ขอให้ทำการตรวจสอบการขายข้าวจีทูจีย้อนหลังไป 3 ปี ทุกสัญญา

@สั่งดีเอสไอสอบย้อนหลังจีทูจียุค ปชป.

ใน ระหว่างการตรวจสอบ ขอให้ระงับการส่งมอบไว้ชั่วคราวจนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น โดยเฉพาะสัญญาที่มีปัญหา ส่วนสัญญาที่ไม่มีปัญหาก็ยังคงส่งมอบได้ หากผลการตรวจสอบพบการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ จะให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบต่อไป ขั้นตอนทั้งหมดจะให้เวลา 15 วัน

รายงาน ข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การให้ตรวจสอบสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีจะให้ย้อนหลัง 3 ปีทุกสัญญา จะรวมถึงสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีการดำเนินการขายข้าวจีทูจีกับจีนด้วย

ล่า สุดดีเอสไอ ได้ทำหนังสือขอข้อมูลเพิ่มมายังกระทรวงพาณิชย์ มีการกล่าวหาว่าการขายข้าวในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ไม่โปร่งใส โดยมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบ คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น และนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : เปิดเครือข่าย เวียนเทียนข้าว งาบส่วนต่าง

view