สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

วิธีช่วยเกษตรกรที่ฉลาดกว่าการจำนำข้าว

วิธีช่วยเกษตรกรที่ฉลาดกว่าการจำนำข้าว

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




การ ที่จะทำให้เกษตรกรพัฒนาได้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ต้องหาทางช่วยให้ 1. เกษตรกรมีปัจจัยการผลิต เช่น ที่ดิน อุปกรณ์การผลิต ทุน เป็นของตนเอง
หรือ ใช้ได้ในราคาต่ำ 2. เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต รู้วิธีผลิตอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 3. เกษตรมีรายได้แน่นอนจากขายพืชผลในราคาที่เป็นธรรม และ มีการประกันความเสียหายจากภัยพิบัติและความผันผวนของราคาพืชผล

การ ปฏิรูปที่ดินในแนวทางโฉนดชุมชน การเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า และการจัดตั้งธนาคารที่ดิน คือแนวทางที่สำคัญในการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรได้มีที่ดินทำกินในต้นทุนที่ ต่ำลง มีแรงจูงใจที่จะพัฒนาที่ดินที่ตนจะมีสิทธิใช้ได้ยาวนาน ประเทศจะได้ใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างเหมาะสมเป็นธรรมเพิ่มขึ้น

ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฯลฯ ล้วนผ่านการปฏิรูปที่ดินและปฏิรูปเกษตรกรรมมาก่อน พัฒนาภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรสามารถป้อนวัตถุดิบให้ และเกษตรกรมีรายได้ มีอำนาจซื้อ เศรษฐกิจภายในประเทศเติบโต ประเทศไทยสนใจแค่การส่งเสริมอุตสาหกรรมส่งออกแบบพึ่งพาทุนเทคโนโลยี พลังงาน วัตถุดิบจากต่างประเทศ ไม่ปฏิรูปที่ดินและการเกษตร เศรษฐกิจไทยจึงเติบโตแบบกลวงๆ ฉาบฉวย ขึ้นอยู่กับการส่งออกและการลงทุนของบรรษัททุนต่างชาติ ตลาดภายในประเทศคับแคบ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีประชากร 65 ล้านคน (มากเป็นที่ 20 ของโลก) เพราะประชาชนไทยส่วนใหญ่คือเกษตรกร แรงงานและผู้ประกอบอาชีพอิสระรายได้น้อย ขาดอำนาจซื้อ

การ ปฏิรูปที่ดินแบบเอาที่ดินป่าเสื่อมโทรม และที่ราชการมาจัดสรรแบ่งเป็นแปลงเล็กๆ ให้ประชาชน ทำได้เพียงส่วนหนึ่ง แต่ทำให้สูญเสียพื้นที่ป่า มีการทุจริตฉ้อฉลกัน และเมื่อไม่มีการปฏิรูปการเกษตรอย่างครบวงจร เกษตรยังมีหนี้สินมาก ต้นทุนสูง ขายพืชผลราคาต่ำ ในที่สุด เกษตรกรก็ต้องขายที่ดินให้กับนายทุน เพราะไม่มีกฎหมายจำกัดการถือครองที่ดิน ไม่มีการเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า ไม่มีการกำหนดโซน หรือเขตว่าที่ใดควรทำการเกษตรห้ามเอาไปทำอย่างอื่น

การ ปฏิรูปที่ดินในแนวทางโฉนดชุมชน จะป้องกันการที่เกษตรกรเอาที่ดินไปขายให้นายทุนได้ดีกว่าการปฏิรูปที่ดินแบบ เก่า เพราะเกษตรกรจะได้สิทธิในที่ทำกินไปชั่วลูกหลาน แต่ไม่สามารถขายให้คนนอกชุมชนที่ไม่ใช่เกษตรกรได้ ถ้าเกษตรกรคนไหนไม่ต้องการทำการเกษตรต่อก็ขายคืนให้สหกรณ์หรือคนในชุมชนที่ สหกรณ์โฉนดชุมชนยอมรับ วิธีนี้จะป้องกันให้พื้นที่เกษตรยังคงอยู่ และถูกใช้ประโยชน์โดยเกษตรรายย่อยอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน ชุมชนที่เป็นสมาชิกเครือข่ายการปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย หลายร้อยชุมชนมีการจัดการเรื่องโฉนดชุมชนกันเอง มีชุมชนที่มีโฉนดชุมชนอย่างเป็นทางการที่รัฐบาลยุคประชาธิปัตย์รับรองไป เพียง 2 ชุมชน ที่เหลือยังค้างเติ่ง เพราะรัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้สนใจจะทำต่อ ขนาดมีการอนุมัติงบประมาณกองทุนธนาคารที่ดินให้กับชุมชนบางแห่งตามโครงการนำ ร่องแล้วแต่ชุมชนราว 5 แห่งในโครงการก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีการจัดตั้งธนาคารที่ดินเพื่อบริหารจัดการใช้งบประมาณนี้

ที่ดิน ที่ชุมชนต่างๆ ยื่นขอโฉนดชุมชนกันอยู่มีทั้งที่รัฐและที่ของเอกชน ที่ของรัฐขึ้นอยู่หลายหน่วยงาน บางแห่งเป็นที่ดินที่เคยตั้งใจจะปฏิรูปหรือจัดสรรให้เกษตรกร เช่าซื้อหรือเช่า แต่หน่วยงานรัฐเบี้ยว บางแห่งเป็นที่ของกรมป่าไม้ กรมอุทยาน แล้วเอาไปให้เอกชนเช่าหมดสัมปทานปล่อยทิ้งรกร้างไว้ เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินหรือมีไม่พอก็เข้าไปทำประโยชน์โดยเป็นกรณีพิพาทกับ หน่วยงานรัฐ ส่วนที่ดินเอกชนนั้นมีหลายแห่งที่ได้มาโดยมิชอบ นายทุนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐทำเอกสารซื้อขาย เอกสิทธิต่างๆ ในพื้นที่ที่เกษตรกรตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายพ่อแม่เคยทำมาหากินมาก่อนโดยไม่ มีเอกสารสิทธิ เมื่อนายทุนมีเอกสารสิทธิก็แจ้งความและนำเจ้าหน้าที่มาขับไล่ เกษตรกรจำนวนมากต้องถูกจับกุม ถูกส่งฟ้องศาลว่าบุกรุก ศาลตัดสินให้เข้าคุกไปบางส่วนปล่อยไปเป็นบางส่วน

ที่ดิน ของรัฐควรทำเป็นป่าชุมชน โฉนดชุมชน โดยยังคงตั้งกติการักษาธรรมชาติไว้ได้ ส่วนที่เอกชนถ้าคณะกรรมการเดินหน้าพิสูจน์เรื่องเอกสารสิทธิ พบว่าเอกสารสิทธิในชุมชนไหนนายทุนได้มาโดยไม่ชอบ ก็ควรยกให้เป็นโฉนดชุมชนไปได้เลย ส่วนที่เอกชนได้มาถูกต้องชอบธรรม ควรจัดตั้งธนาคารที่ดิน รับซื้อจากเอกชนแล้วมาจัดสรรให้เกษตรกร หรือเช่าซื้อ

รัฐ ควรออกกฎหมายเวนคืน เพื่อซื้อที่ดินในราคาต่ำใกล้เคียงกับราคาเดิม บวกดอกเบี้ยนิดหน่อย ไม่ใช่ราคาซื้อขายเก็งกำไรตามราคาตลาด ที่ดินบางแห่งที่อยู่ใกล้เมืองใหญ่อาจมีราคาตามราคาสูงมากไปสำหรับการทำ เกษตรกรรม แต่เนื่องจากการทำเกษตรกรเป็นเรื่องความมั่นคงท่งอาหารสำหรับคนทั้งชาติ และคนรุ่นหลัง ดังนั้นการกำหนดโซนสงวนที่ดินที่เหมาะสมไว้เพื่อทำการเกษตร จึงเป็นเรื่องมีเหตุผลที่ควรทำ ไม่ควรปล่อยให้มีการเก็งกำไรราคาที่ดินอย่างไม่มีขอบเขต

การ แบ่งโซนที่ทำการเกษตร (ห้ามทำอย่างอื่น) และเก็บภาษีที่ดินในอัตราหน้า ตลอดจนการตั้งธนาคารที่ดิน เป็นเรื่องจำเป็นที่จะทำให้การปฏิรูปที่ดินไปสู่เกษตรรายย่อยประสบความ สำเร็จ เพราะในสภาพปัจจุบันนายทุนกว้านซื้อที่ดินไว้มาก เกษตรกรรายย่อยสูญเสียที่ดินและที่ดินมีราคาสูงเกินไปสำหรับเกษตรกรรายย่อย และหรือการทำเกษตรกรรม ถ้าแบ่งโซนที่ดินสำหรับทำการเกษตรไว้ ห้ามเอาไปทำอย่างอื่น ที่ดินแถบนั้นก็จะไม่มีราคาสูงมากจนเกินไป ทั้งการเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า คือใครถือแปลงใหญ่และหรือไม่ได้ทำประโยชน์ต้องเสียภาษีในอัตราสูง จะทำให้คนที่กักตุนที่ดินไว้มากเกินไปต้องขายที่ดินออกมา

ที่ จริงควรกำหนดห้ามเอกชนมีที่ดินเกิน 50-100 ไร่ด้วย ยกเว้นนิติบุคคล เช่น สหกรณ์หรือบริษัทมหาชน แต่บริษัทมหาชนก็ควรกำหนดไม่ให้มีที่ดินได้ไม่เกินราวละ 500 ไร่ เพื่อไม่ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งมีอำนาจผูกขาดมากเกินไป

การ มีธนาคารที่ดินก็เพื่อจะได้มีกองทุนในการรับซื้อที่ดินจากเอกชนมาขาย ให้เช่าซื้อ หรือให้เช่าต่อ ควรเป็นธนาคารของรัฐหรือเป็นธนาคารในรูปสหกรณ์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิรูปที่ดินมากกว่าการเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มุ่ง หากำไรสูงสุด

การ ปฏิรูปที่ดินที่กล่าวมาทั้งหมดจะได้ผลดียิ่งขึ้น ถ้าเราส่งเสริมการเกษตรแบบอินทรีย์ แบบปลอดสารเคมีและแบบปลอดภัย (ใช้สารเคมีบ้างแต่มีการควบคุมที่ดี) แทนการเกษตรแบบใช้ปุ๋ยเคมีและยาเคมีปราบศัตรูพืชมากเกินไปในปัจจุบัน เพราะจะได้ประโยชน์ต่อทุกฝ่ายและต่อส่วนรวม ทั้งการลดต้นทุนการผลิต ลดการขาดดุลการค้าของประเทศเพิ่มความปลอดภัยให้เกษตรกรและผู้บิโภค ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ ถ้าประเทศไทยตั้งใจทำเรื่องเกษตรอินทรีย์จริงจัง เกษตรกรจะขายได้และส่งออกได้มากขึ้นในราคาสูงกว่าเกษตรเคมีด้วย เพราะปัจจุบันประชาชนที่มีการศึกษาสูงและรายได้สูง ตื่นตัวเรื่องปัญหาสุขภาพและสภาพแวดล้อม สนใจบริโภคอาหารอินทรีย์ที่ปลูกแบบธรรมชาติมาก แต่กลับหาซื้อไม่ค่อยได้


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : วิธีช่วยเกษตรกร ฉลาดกว่า การจำนำข้าว

view