สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แฉ จำนำข้าว ไม่มีนักวิชาการในเพื่อไทยหนุน สั่งธ.ก.ส.กู้เพิ่มกลบหนี้สาธารณะ!

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       คน ในเพื่อไทยแฉ “โครงการรับจำนำข้าว” ไม่มีฝ่ายวิชาการในพรรคเพื่อไทยหนุน เหตุเป็นโครงการด่วน ทำขึ้นมาเพื่อคะแนนเสียงเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งคิดมาก่อนเลือกตั้งไม่นานร่วมกับ ค่าแรง 300 บาท และนโยบายอุดหนุนเรื่องน้ำมัน พร้อมเผยเหตุให้ ธ.ก.ส.กู้เงินเพิ่ม เพราะหวังกลบตัวเลขหนี้สาธารณะด้วย ขณะที่นักวิชาการนิด้าจับมือทีดีอาร์ไอ เดินหน้าคัดค้านจนถึงที่สุด ก่อนระบบตลาดค้าข้าวไทยพังยับ เผยมีนักวิชาการพร้อมร่วมอีกเพียบ จี้รัฐฟัง “ดร.โกร่ง” ก่อนรัฐบาลพัง!
       
       แค่เพียง 1 วันหลังคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินและปริมาณการรับจำนำข้าวเปลือกปีการ ผลิต 2555/56 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าวเปลือก จำนวน 26 ล้านตัน (นาปี 15 ล้านตัน นาปรัง 11 ล้านตัน) เป็นจำนวนเงิน 405,000 ล้านบาท (นาปี จำนวน 240,000 ล้านบาท นาปรัง จำนวน 165,000 ล้านบาท)
       
       ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ออกมาค้านอย่างหนักจะชื่อ “ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ รามางกูร” ที่ขณะนี้ถือเป็นคนสำคัญด้านการบริหารงานด้านการเงินการคลังของรัฐบาล และเป็นถึงประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาทั้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ให้เกียรติ ในฐานะเป็นนักวิชาการที่มีความรอบรู้ด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังยิ่ง
       
        ตั้งแต่เชิญให้ ดร.โกร่งมาเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคต ประเทศ (กยอ.) เพื่อเดินสายสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในวิกฤตการณ์น้ำท่วมในปี พ.ศ. 2554 เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะการเจรจากับประเทศญี่ปุ่น และต่อมายังได้เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย จุดยุทธศาสตร์ด้านการบริหารการเงินการคลังหนึ่งของประเทศ
       
       ก็ดูเป็นเหมือนพวกเดียวกันในสายตายิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตลอด
       
       แต่วันนี้ ดร.โกร่งถึงขนาดออกมาพูดว่า โครงการรับจำนำข้าวนี่แหละที่จะทำให้รัฐบาลพัง!
       
       “ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะพังก็คงเป็นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เพราะแค่ชื่อโครงการจำนำก็ผิดแล้ว ซึ่งราคาจำนำต้องต่ำกว่าราคาจริง แต่การให้ราคาจำนำสูงกว่า คงไม่มีใครมาไถ่ถอน ข้าวที่มาจำนำก็มีทั้งของจริง และสต็อกลม ไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งถ้ารัฐยังขายข้าวไม่ได้ ก็จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก” ดร.โกร่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
       
       เรื่องนี้ ดร.โกร่งกล่าวว่า ได้เสนอความคิดเห็นให้ทั้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปแล้ว
       
       การออกมาประกาศตัวไม่เห็นด้วยของ ดร.โกร่งครั้งนี้จึงเป็นนัยที่สำคัญยิ่งต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และทำให้สถานการณ์การคัดค้านโครงการรับจำนำข้าวของคณาจารย์นิด้า (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) ได้แรงเสริมมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวของ “ม็อบชาวนาแดง” ที่ปิดล้อมรั้วนิด้าเองก็ถูกลดทอนพลังความชอบธรรมลงไปไม่น้อย
       
       เป็นเกษตรกร แต่ให้แกนนำเสื้อแดงพามา ภาพที่ต้องการสื่อว่าเป็นเกษตรกร หรือชาวนาที่ไม่เห็นด้วย มันจึงถูกลดทอนพลังไปอย่างช่วยไม่ได้
       
       ล่าสุด กิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรี White lie ออกมายืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ แม้ ดร.โกร่งจะคัดค้าน
       
       ดังนั้น ต่อจากนี้ไป ศึกการต่อสู้เรื่องการรับจำนำข้าวจะเป็นศึกใหญ่มากของรัฐบาล เพราะเป็นศึกที่ต่อสู้โดยตรงระหว่าง “นักวิชาการ” ที่ฟันตรงไปที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” แม้แต่นักวิชาการที่ช่วยพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดอย่าง ดร.โกร่ง เองก็ยังค้านอย่างหนัก

      แฉไม่มีนักวิชาการหนุน-หาเสียงอย่างเดียว
       

       คำถามคือ จริงๆ แล้วโครงการรับจำนำข้าวรอบ 2 นี้เป็นมาอย่างไรกันแน่ นักวิชาการสายไหนคนไหนกันแน่ที่คิดนโยบายให้พรรคเพื่อไทย?
       
       คำตอบที่น่าตกใจคือ ไม่มีนักวิชาการคนไหนในพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยเลย และนโยบายนี้ไม่ได้มีการเตรียมการในเชิงวิชาการมาเลย
       
       “300 บาท, จำนำข้าว และการอุดหนุนราคาน้ำมัน 3 นโยบายนี้มาทีหลังสุดเลย เรียกว่ามาในวินาทีสุดท้าย ไม่เคยมีการประชุมจากฝ่ายวิชาการ โครงการเหล่านี้มาเพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยเฉพาะ” แหล่งข่าวอดีตนักวิชาการที่เข้าไปช่วยงานในพรรคเพื่อไทย เปิดเผย
       
       พร้อมยืนยันว่า ในช่วงเวลานั้น ซึ่งเป็นช่วงก่อนเลือกตั้ง ไม่มีการคำนวณผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น ที่น่าเป็นห่วงคือ ไม่มีการคำนวณมาตั้งแต่ต้นว่า จะต้องใช้เงินเท่าไร จะเอาเงินมาจากไหน และจะบริหารจัดการอย่างไร!
       
       “ดร.โกร่งท่านเสนอค้านตั้งแต่สมัยที่คุณกิตติรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว ว่าไม่เห็นด้วย แต่คุณกิตติรัตน์ไม่ฟัง แถมเป็นคนวางกฎเกณฑ์ต่างๆ มาตั้งแต่แรก ซึ่งมันผิด”
       
       แหล่งข่าวอดีตนักวิชาการท่านหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่าใครเป็นคนออกกฎเกณฑ์ในส่วนของการปล่อยให้มีการจำนำข้าวข้ามเขต ได้ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็ทำให้เกิดปัญหาใหญ่มาก ทั้งการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ และยังพบว่าโกดังหนึ่งสามารถเอาข้าวในอีกโกดังหนึ่งมาหมุนเวียนรับจำนำข้าว ได้อีก การทุจริตมีมหาศาล

       อนึ่ง โดยข้อเท็จจริงแล้ว การรับจำนำข้าว ประเทศไทยมีการทำมานานมาก คือมีการทำมาตั้งแต่สมัยพรรคกิจสังคมเป็นรัฐบาล แต่การจำนำข้าวแบบเดิมนั้น มักจะมีการจำนำในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด เช่น ราคาทองตอนนี้ 25,000 บาท ก็รับจำนำแค่ 20,000 บาท ดังนั้นเมื่อราคาข้าวในตลาดโลกสูง ชาวนาก็จะมาไถ่ถอนข้าวออกไปขายในท้องตลาด ตรงนี้นโยบายการรับจำนำข้าวจะไม่ทำลายกลไกตลาด และรัฐบาลไม่ต้องแบกภาระงบประมาณมาใช้ในโครงการจำนวนมาก
       
       “ระยะหลังพรรคเพื่อไทยใช้วิธีหาเสียงกับชาวนาอย่างเดียว คืออยากให้เงินชาวนา แต่ไม่รู้จะให้ตรงไหนก็มาให้กับโครงการรับจำนำข้าว ตอนแรกที่ตั้งราคารับจำนำ ก็ตั้งสูงถึง 15,000 บาท/เกวียน แต่ราคาในตลาดโลกตอนนั้นแค่ 12,000 บาท มันไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้น”
       
       เมื่อมีนโยบายออกมาแล้วก็ต้องมีเงินมาดำเนินโครงการ ปกติการรับจำนำจะต้องบอกว่าขาดทุนนิดหน่อยหรือได้กำไรบ้าง แต่นโยบายรับจำนำข้าวในสมัยนี้มีคำเดียวคือ “ขาดทุนอย่างเดียว” ตรงนี้ใครรับผิดชอบ
       
       “ที่อยากให้สังเกตคือ แล้วรัฐบาลจะเอาเงินมาจากไหน ล่าสุดที่เมื่อวานอนุมัติวงเงินอีก 4 แสนล้านบาทขึ้นมา”
       
       สั่ง ธ.ก.ส.กู้เงิน-กลบตัวเลขหนี้สาธารณะ
        
       
       ตรงนี้คือส่วนที่ซ่อนอยู่ แล้วไม่เป็นข่าวหรือไม่ คือรัฐบาลกำลังเตรียมให้ ธ.ก.ส.กู้เงิน
       เมื่อไปดูผลการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็เห็นภาพชัด โดยมีการระบุว่าให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเข้ามาพิจารณาจัดหาเงินทุนให้ ธ.ก.ส. และรัฐบาลรับภาระชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากโครงการทั้งหมดเพื่อใช้ในการรับจำนำเสียด้วย
       
       สรุปก็คือว่า รัฐบาลอนุมัติให้ ธ.ก.ส.กู้เงินเพิ่มจาก 105,910 ล้านบาท เป็น 120,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน รวมทั้งให้ทำ Refinance เงินกู้เก่า โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้รับภาระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย ที่เกิดจากการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง
       
       เงินส่วนนี้คือเงินภาษีประชาชน คนชั้นกลางที่ฝ่ายการเมืองนำไปใช้เพื่อหาเสียงของตัวเองใช่หรือไม่?
       
       แหล่งข่าวอดีตนักวิชาการในพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ความจริงคือ จริงๆ รัฐบาลไม่มีเงิน ทางฝ่ายการเมืองที่คุมกระทรวงการคลังจึงไปสั่งให้ สบน. หรือสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กู้เงินมาใช้ในโครงการนี้ แต่ปรากฏว่า สบน.บอกว่าถ้ากู้มาจะทำให้ตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลเพิ่มขึ้นได้
       เมื่อย้อนไปดูตัวเลขหนี้สาธารณะ ปรากฏว่ารัฐบาลนี้มีความพยายามในการซ่อนหนี้สาธารณะระดับหนึ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะหนี้ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย และการที่รัฐบาลเตรียมกู้เงิน 2.7 ล้านล้านบาทมาก็จะทำให้ตัวเลขหนี้สาธารณะที่ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 43% ขึ้นไปถึงเกือบ 60% ของจีดีพี ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดอยู่แล้ว
       
       รัฐบาลจึงต้องหาทางออก โดยการให้ ธ.ก.ส.เป็นคนกู้เอง เพราะตัวเลขหนี้ที่รัฐวิสาหกิจเป็นคนกู้จะไม่ปรากฏในตัวเลขหนี้สาธารณะ
       
       ซ่อนหนี้สาธารณะเพิ่มเข้าไปอีก!
       
       นี่คือการบริหารงานที่พรรคเพื่อไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำมากขึ้นไปทุกที ดังนั้นที่ ดร.โกร่งบอกว่า ถ้าไม่รีบทบทวนโครงการรับจำนำข้าวที่นอกจากจะทำลายกลไกตลาดแล้ว ยังมีการทุจริตมหาศาล รัฐบาลนี้จะพังเพราะเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินเลย

      นิด้าจับมือทีดีอาร์ไอจี้รัฐเลิกจำนำข้าว
       

       รออีกไม่นาน เชื่อว่ารัฐบาลพังแน่ ถ้ายังเชื่อ “กิตติรัตน์” แค่ White lie ก็ระทมแล้ว ยังมาเจอศึกนักวิชาการรุมต้านโครงการรับจำนำข้าวอีก
       
       อย่าลืมว่า โครงการรับจำนำข้าวนี้ ได้รับการคัดค้านมาตั้งแต่ต้นของนักวิชาการสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ โดยคนนำคือ “ดร.นิพนธ์ พัวพงศธร” ประธานสถาบันที่ศึกษาโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่สมัยทักษิณ 1 และมีตัวเลขยืนยันได้ว่ารัฐบาลต้องขาดทุนในโครงการนี้ในตัวเลขเกิน 1 แสนล้านบาท และเกษตรกรได้รับประโยชน์น้อยที่สุดคือได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินก้อนใหญ่อีก 5 หมื่นล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขที่หายไปในระหว่างดำเนินการ
       
       ดร.นิพนธ์ เป็นหัวหอกที่คัดค้านโครงการรับจำนำข้าวอย่างเต็มที่
       
       มาถึงคณาจารย์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า การเดินเรื่องคัดค้านนี้มาจาก 2 อาจารย์สำคัญคือ ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ ดร.ศาสตรา สุดสวาสดิ์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารการเงินการคลัง และที่ผ่านมาไม่เคยออกมาคัดค้านโครงการใดของรัฐมาก่อน
       
       ดร.อดิศร์เปิดเผยว่า จุดยืนของคณาจารย์ที่คัดค้านโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนี้ จะยังคัดค้านต่อไป และขณะนี้ได้ส่งหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญครบถ้วนหมดแล้ว อยู่ที่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร
       
       ยืนยันว่า คณาจารย์ทั้ง 146 คนเห็นว่าการรับจำนำข้าวนั้น ไม่ควรเป็นไปในรูปแบบการยกระดับราคาข้าวเพียงอย่างเดียว เพราะการเอาแต่เงินให้นั้น เป็นการทำลายตลาดราคาข้าว และไม่เห็นด้วยกับฝ่ายการเมืองที่ต้องการการหาเสียงเพียงอย่างเดียว ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควรจะสนับสนุนเรื่องการพัฒนาผลผลิตข้าวต่อไร, การพัฒนาคุณภาพข้าว และการพัฒนาเกษตรอินทรีย์จะเหมาะสมกับสังคมไทย และไม่ทำลายกลไกตลาด
       
       ทั้งนี้ คณาจารย์จากนิด้า ได้ประสานความร่วมมือกับทั้ง ดร.นิพนธ์ พัวพงศธร ประธานสถาบันทีดีอาร์ไอ และ รศ.สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันคลังสมองของชาติ ที่ศึกษานโยบายสาธารณะเรื่องข้าวโดยเฉพาะ เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านเรื่องดังกล่าวให้ถึงที่สุดด้วย
       
       ด้าน ดร.ศาสตรา สุดสวาสดิ์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า ความเสียหายในระยะสั้นนั้นจะไม่เห็นผลชัดก็จริง แต่ในระยะยาวประเทศไทยจะมีผลเสียหายรุนแรงมาก โดยเฉพาะระบบตลาดค้าข้าวจะสูญเสียไป โดยที่การรับจำนำข้าวในรอบแรกก็นับว่ามีข้าวในระบบเข้าไปอยู่ในมือรัฐบาล แล้ว 50-60% ซึ่งแม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพยายามพูดว่าเป็นเพียงข้าวส่วน เดียว แต่ข้อเท็จจริงคือการที่มีข้าวในระบบไปอยู่ในโครงการรับจำนำข้าวมากกว่า 50%ก็ถือว่าทำให้ตลาดไม่เอื้อต่อการแข่งขันแล้ว
       
       เชื่อว่านักวิชาการไม่ว่าฝ่ายไหน หรือสถาบันใด ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการให้ยุติการรับจำนำข้าว เพราะตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วจะสร้างความเสียหายให้กับสังคมไทยอย่างมาก และเชื่อว่ายังมีนักวิชาการอีกหลายสถาบันที่ขณะนี้ยังไม่แสดงตัวออกมาร่วม คัดค้านโครงการนี้อีกจำนวนมาก
       
       โดยเฉพาะหลังจาก ดร.โกร่ง ออกมายืนยันว่าไม่เห็นด้วย ก็ยิ่งต้องคิดว่าถึงเวลาที่รัฐบาลต้องพิจารณาหยุดโครงการรับจำนำข้าวได้แล้ว หรือยัง!


รักษ์ไม้,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,มูลไส้เดือนดิน,การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยอินทรีย์,ปุ๋ยชีวภาพ

Tags : จำนำข้าว นักวิชาการในเพื่อไทยหนุน สั่งธ.ก.ส.กู้เพิ่ม กลบหนี้สาธารณะ!

view